สีม่วง

จริงแล้วบันทึกวันนี้จะเป็นของเมื่อวาน แต่ว่าติดเข้าไปอ่านเรื่องราวของ เมย์ อยู่ก็เลยไม่ได้เขียนอะไรมากมาย แต่ก็พอที่จะย้อนเวลาไปได้ว่าเจอกับ เมย์ ครั้งแรกหลังจากกลับจาก Singapro แล้วประมาณเดือน ตุลาคม 51 แต่จริงๆนะไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับ เมย์ มากเลยอาจเป็นเพราะคนหนึ่งนั้นจบ Hotel Management ในขณะที่อีกคนจบมัทธยมปลายเที่ยบเท่าเท่านั้นเต็มที่ก็เป็นเพื่อนตีเทนนิส ไม่รู้นะตอนอยู่ที่เกาะยาวเราเองก็รู้ตัวอยู่แล้วที่ไป แต่ไม่ได้คิดอะไรมากมายไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเจออะไรหลายๆเรื่อง คิดแต่เพียงว่ามันคงจะจบหรือจบแล้วที่เกาะยาวแล้วเราจะไปเกาะกูดต่อแค่นั้น ไม่ได้คิดอะไรมากมายไม่กล้าที่จะหวัง แต่ก็ตามประสาคนที่ชอบอะไรตื่นเต้น

จะแรงไปหรือเปล่าถ้าจะพูดว่าถ้าไม่มีการถล่มตึก แล้วเราไม่ได้ไปทำงานที่เกาะยาวแล้วได้เลข 311(or 3011) เราจะไม่เป็นบ้าไปแบบนี้ และยิ่งวันเวลาผ่านไปมากเท่าไร ได้เรียนรู้รับรู้จากสิ่งรอบข้างมากเท่าไหร ย้อนกลับไปในอดีตของตัวเองมากเท่าไร มันยิ่งทำให้เราหมดหนทางที่จะคิดเห็นเป็นอย่างอื่นสาเหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะว่ามันเข้าหรือ แมทช์ ไปเสียหมดตัวเลขต่างๆที่เราเห็นหรือได้เห็นหรือกำลังจะเห็น มันอ่านความรู้สึกได้อย่างนั้น และยิ่งมารวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเองความรู้สึกของตัวเองสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองในเวลานั้นๆทำให้ ไม่รู้ซิ เขา ก็ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดให้เราได้เข้าใจได้แบบตรงๆ ส่วนมากจะเป็นการเชื่อมความรู้สึกของตัวเองประสบการณ์ของตัวเองไปกับสิ่งรอบๆข้างที่เกิดขึ้น โดยที่มีตัวแปลหลายอย่างที่อาจจะมีการทำให้เกิดขึ้น เช่น ก่อนที่จะบินไปเกาหลีเมื่อว้นที่ 13 เครื่องออกวันที่ 14Feb43 และหิมะตกหนักอย่างมากที่เกาหลีรวมถึงกรุงโซลในวันที 15Feb43 นั้น หลายต่อหลายครั้งซึ่งไม่นานก่อนที่จะทราบว่าจะได้ไปเกาหลีก็ตอนราวๆปลายปี 43 นั้น เคยเขียนไว้แล้วว่าการบินไทยนั้นบินมาแถวตึกใบหยกใกล้มากแค่ใหน และไม่ใช้แค่ครั้งเดียว มันหลายต่อหลายครั้ง

และเมื่อย้อนกับไปดูว่าปี 43 นั้นเกิดอะไรบ้างเห็นมีตัวเลขที่เกิดขึ้นที่เกี่ยวกับ 15 ถึงสีครั้งในปีนั้นซึ่งปรกติสถิติแบบนั้นจะเป็นของเลขตะกูลของ 69 มากกว่าเท่าที่เราเห็นมาซึ่งในปีนั้นเรามีอายุ 21 ปีก็แสดงว่าเราไปเหยีบแผ่นดินเกาหลีก่อนอายุ 22 ปี 72 วัน ไม่มีอะไรมันเป็นแค่การคำนวนที่เป็นประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราเท่านั้น และเมื่อวันที่ 13Oct10 ที่ผ่านมาก็เป็นอีกมิติหนึ่งที่เราได้เรียรู้

ถึงแม้ว่าจะเรื่องราวของเราจะไม่ใช้ A Moment in Jet แต่ของเรานั้นจัดว่าใกล้เคียง จนป่านนี้เราเองก็ยังไม่สามารถที่จะหาดูได้ วันที่ 3 10 10 ซึ่งตรงกับแรม 10 ค่ำเดือน 10 ซึ่งจะครบเดือนพอดีกับวันที่ 3 11 10 ซึ่งตรงกับ แรม 11 ค่ำเดือน 11 อีกไมกี่วัน ความโรแมนติกของ จูน และ เจษ คงไม่ต่างกันมากแต่ว่าค่อนข้างที่จะทำตัวไม่เอาใหนซะมากกว่าทางนี้ เจ้าตัวเคยบอกกับเราว่าโชคดีของเอ๋แล้วที่เลิกกับเจ้าตัวเพราะหลังจากนั้นแล้วชีวิตของเอ๋ก็ดีขึ้นมีบ้านมีรถมีเงินเก็บซึ่งต่างกับการที่ต้องมาอยู่กับเจ้าตัว เราเสียไปแค่ 800 บาทเองตอนที่เลิกติดต่อกัน แต่เจ้าตัวแน้นย้ำกับเราว่าเขารักเมียของเขามาก สำหรับเรามันเป็นความโรแมนติก แต่จะว่าไปของเรามันจืดไปหน่อย

A Moment in June ณ ขณะรัก เป็นภาพยนตร์ไทย ออกฉายในประเทศไทยเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ผลงานกำกับของ ณัฐพล วงศ์ตรีเนตรกุล นำแสดงโดย ชาคริต แย้มนาม, กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เดือนเต็ม สาลิตุล, สินิทธา บุญยศักดิ์, นภัสกร มิตรเอม, สุเชาว์ พงษ์วิไล, มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และ ฮิโตะ ซาโน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเกียรติให้ฉายเปิดเทศกาลและฉายอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกที่ “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ครั้งที่ 13” ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเดือนตุลาคม 2551 เนื้อหาของเรื่องเป็นเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์ที่เคยพลาดของคน 6 คนที่ผ่านบทเพลงที่ทำให้พวกเขามาพบกัน โดยเป็นเหตุการณ์ 2 ห้วงเวลาในปี 2515 และ 2542 มีเพลงประกอบภาพยนตร์คือ เพลง “ความคิด” เนื้อร้อง-ทำนอง-ขับร้อง อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข [1]

ภาพยนตร์ทำรายได้ 5.62 ล้านบาท

สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองนั้นเก่งกาจหนักหนา คิดเสียว่าปิดโอกาศของใครๆไปหลายๆคนที่มีดีเหมือนกันหรือมากว่า เพียงเพราะว่าเส้นทางชีวิตของคุณถูกขีดเอาไว้ไม่ว่าจะโดยใครหรืออะไรก็ตามเพื่อที่จะได้มองสะท้อนกลับมาดูตัวเอง กับการที่จะเข้าสู่เส้นทางของ สีม่วง นั้นบางครั้งมันก็ไม่ใช้เรื่องง่ายๆกับสังคมของโลกใบนี้ จะมีซักกี่ชีวิตและวิญญาณที่จะเข้าถึงสิ่งที่พิสูจน์ออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จะง่ายที่สุดก็ผ่านความรู้สึกของชีวิตนั้น

ข้อความนี้ถูกเขียนใน ไม่มีหมวดหมู่ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

1 ตอบกลับที่ สีม่วง

  1. Pingback: ยอดคงเหลือ ๑๗๕ | Space ของ สุรศักดิ์

ใส่ความเห็น